ขั้นตอน | สิทธิของคู่กรณี | ผลลัพธ์ |
---|---|---|
1. ยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ย | คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อขอไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยที่ทั้งสองฝ่ายสมัครใจยินยอมร่วมกัน
(ก่อนขายทอดตลาดหรือหลังอายัดทรัพย์ก็ได้) |
กรมบังคับคดีรับเรื่องและเริ่มดำเนินการเตรียมคดีสำหรับการไกล่เกลี่ย |
2. เตรียมคดีและแต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ย | ขั้นตอนเตรียมคดีนี้คู่กรณีสามารถให้ข้อมูลหรือพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ไกล่เกลี่ยได้ เพื่อให้การเจรจาเป็นไปอย่างถูกต้องครบถ้วน (อาจเป็นเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีหรือบุคคลภายนอกที่ขึ้นทะเบียนไว้) | แต่งตั้งผู้ไกล่เกลี่ยหรือเจ้าหน้าที่ประสานงานดูแลคดีนั้นๆ อย่างเป็นทางการ
กำหนดวัน เวลา และสถานที่สำหรับการเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกับคู่กรณี |
3. การเจรจาไกล่เกลี่ย | ในการเจรจาไกล่เกลี่ย คู่กรณีมีสิทธิเต็มที่ในการเสนอข้อคิดเห็นหรือทางแก้ปัญหาของตนเอง สามารถมีทนายความเข้าร่วมเพื่อให้คำปรึกษาได้ และมีสิทธิที่จะยอมรับหรือปฏิเสธข้อเสนอใด ๆ ก็ได้อย่างอิสระ (ผู้ไกล่เกลี่ยไม่สามารถบังคับให้ฝ่ายใดยอมรับข้อตกลง) | คู่กรณีเจรจาต่อรองกันผ่านคนกลางอย่างเป็นทางการ หากทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็จะยุติการไกล่เกลี่ยโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ |
4. กรณีไกล่เกลี่ยสำเร็จ 🤝 | คู่กรณีมีสิทธิร่วมกันกำหนดเงื่อนไขของข้อตกลงที่เห็นชอบร่วมกันอย่างเสรี (ไม่มีการบังคับจากภายนอก) และเมื่อได้ร่างข้อตกลงแล้ว ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิทบทวนก่อนลงนามเพื่อความเป็นธรรมต่อกัน | จัดทำบันทึกข้อตกลงการไกล่เกลี่ยเป็นลายลักษณ์อักษร โดยคู่กรณีลงลายมือชื่อต่อหน้าผู้ไกล่เกลี่ย ข้อตกลงนี้มีผลผูกพันตามกฎหมายให้คู่กรณีต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุ และนำส่งต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการตามที่ตกลงกัน |
5. กรณีไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ❌ | คู่กรณีมีสิทธิที่จะไม่ตกลงหากเงื่อนไขที่อีกฝ่ายเสนอมาไม่เป็นที่พอใจ (การไม่ตกลงถือเป็นสิทธิตามกฎหมายของคู่ความที่จะไม่ยินยอมข้อเสนอที่ตนเสียเปรียบ) ทั้งนี้การไม่สำเร็จในการไกล่เกลี่ยครั้งนี้ไม่ตัดสิทธิที่จะเจรจาอีกในอนาคต หากทั้งสองฝ่ายเต็มใจ | การไกล่เกลี่ยยุติลงโดยไม่มีข้อตกลง — เจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินขั้นตอนบังคับคดีที่ค้างอยู่ต่อจนกว่าจะได้รับชำระหนี้หรือปิดคดีตามคำพิพากษาเดิม |
ติดต่อสอบถาม
Copyright © 2024 Sup-D