SUP-D



ลงประกาศ

สิทธิของคู่กรณีและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
img

การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท อยู่บนพื้นฐานความสมัครใจและสิทธิของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีการรับรองไว้ทั้งในพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องและระเบียบของหน่วยงานที่ดำเนินการ ดังนี้:

  • สิทธิในการเข้าหรือไม่เข้าร่วมไกล่เกลี่ย:
    คู่กรณีมีสิทธิเลือกว่าจะเข้าร่วมกระบวนการไกล่เกลี่ยหรือไม่ การไกล่เกลี่ยไม่ใช่กระบวนการบังคับ คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปฏิเสธที่จะไกล่เกลี่ยได้ หากไม่สมัครใจที่จะเจรจาประนีประนอม และระหว่างการไกล่เกลี่ย หากฝ่ายใดไม่ประสงค์จะดำเนินต่อ ก็สามารถยุติการไกล่เกลี่ยได้ ซึ่งกรณีนั้น คู่กรณียังคงมีสิทธิที่จะใช้บังคับคดีตามคำพิพากษาได้ต่อไป โดยไม่เสียสิทธิเดิม กล่าวคือ การไกล่เกลี่ยไม่กระทบต่อสิทธิในการบังคับคดีเดิม เว้นแต่จะมีข้อตกลงใหม่เกิดขึ้น

  • สิทธิในการเจรจาข้อตกลงอย่างอิสระ:
    ตามมาตรา 28 แห่ง พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 คู่กรณีมีสิทธิเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกันได้โดยอิสระ ข้อตกลงใดๆ ที่ได้มาต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อย ซึ่งหลักการนี้ปรากฏในคู่มือของกรมบังคับคดีที่ระบุว่า “คู่กรณีสามารถเลือกที่จะทำข้อตกลงอย่างไรก็ได้ ที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย” นั่นหมายความว่าคู่กรณีสามารถสร้างสรรค์แนวทางแก้ปัญหาได้หลากหลาย เช่น ผ่อนชำระ ลดหนี้ ยืดเวลา ฯลฯ ตราบใดที่ไม่ละเมิดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย

  • การรักษาความลับ:
    กระบวนการไกล่เกลี่ยได้รับความคุ้มครองด้านความลับอย่างเคร่งครัด ข้อมูลหรือคำพูดใดๆ ที่คู่กรณีเปิดเผยในการไกล่เกลี่ยจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ บุคคลที่เกี่ยวข้อง (ผู้ไกล่เกลี่ย เจ้าหน้าที่ และคู่กรณี) จะไม่เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นต่อผู้อื่น และข้อมูลดังกล่าว ไม่สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลหรือในการบังคับคดีได้ หากการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ (หลักการนี้สอดคล้องกับมาตรา 20 และ 21 ของ พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ ที่กำหนดเรื่องการรักษาความลับและการไม่รับฟังคำเจรจาไกล่เกลี่ยเป็นพยานหลักฐาน)

  • สิทธิและสถานะของข้อตกลงไกล่เกลี่ย:
    เมื่อคู่กรณีสามารถตกลงกันได้ในการไกล่เกลี่ย ข้อตกลงที่เกิดขึ้นมีผลผูกพันตามกฎหมาย ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ ฝ่ายหนึ่งไม่สามารถบอกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงฝ่ายเดียวโดยปราศจากความยินยอมจากอีกฝ่าย เพื่อความแน่นอนแน่ชัด ข้อตกลงจะจัดทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อคู่กรณีทุกฝ่าย ซึ่งถือเป็น สัญญาประนีประนอมยอมความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (หรืออาจยื่นให้ศาลมีคำสั่งให้เป็นไปตามข้อตกลงนั้นได้หากอยู่ในขั้นตอนที่ศาลเกี่ยวข้อง) ข้อตกลงนี้ มีผลให้สิทธิในการบังคับคดีตามคำพิพากษาเดิมระงับลงตามที่ตกลง เช่น งดการขายทอดตลาดหรือถอนยึดทรัพย์ เป็นต้น​
    แต่ทั้งนี้ หากฝ่ายลูกหนี้ผิดนัดไม่ทำตามข้อตกลงในภายหลัง เจ้าหนี้ก็ยังสามารถใช้คำพิพากษาเดิมดำเนินการบังคับคดีต่อได้ (เว้นแต่ข้อตกลงนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาโดยคำสั่งศาล)

  • ความเป็นกลางและความเชี่ยวชาญของผู้ไกล่เกลี่ย:
    ผู้ไกล่เกลี่ยต้องเป็นกลางและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ซึ่งกรมบังคับคดีมีหลักเกณฑ์คัดเลือกและอบรมผู้ไกล่เกลี่ยให้มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยทั่วไปผู้ไกล่เกลี่ยมักเป็นผู้มีความรู้หรือเชี่ยวชาญในเรื่องที่พิพาท และมีทักษะเจรจา ทั้งนี้ ตามระเบียบกรมบังคับคดีว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2558 ได้กำหนดหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ยไว้ว่าต้องดำเนินการอย่างเป็นกลาง สุจริต และไม่บังคับคู่กรณี ให้คู่กรณีเป็นผู้ตัดสินใจเองในการยอมรับข้อตกลงใดๆ

img

สรุป: สิทธิของคู่กรณีในกระบวนการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีคือ สิทธิในการเลือกร่วมเจรจาอย่างเสรีและปลอดภัย ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมาย ทั้งด้านความสมัครใจ ความลับ และความเป็นธรรมของผลการเจรจา โดยมีกรอบกฎหมายหลักคือ พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 และ ระเบียบกรมบังคับคดีว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2558 ที่ใช้กำกับดูแลให้กระบวนการเป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม



ตัวอย่างกรณีศึกษาในกระบวนการไกล่เกลี่ย 📚

img

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ต่อไปนี้เป็น กรณีตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นจริงหรือสถานการณ์จำลองเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี:

ตัวอย่างที่ 1: ไกล่เกลี่ยก่อนขายทอดตลาดทรัพย์
  นายสมชายเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาคดีเงินกู้ ซึ่งถูกศาลสั่งให้ชำระหนี้จำนวน 200,000 บาทแก่ธนาคาร ภายหลังนายสมชายไม่มีเงินชำระ เจ้าหนี้ได้ขอให้กรมบังคับคดียึดบ้านของนายสมชายเพื่อเตรียมขายทอดตลาด ในระหว่างนี้ นายสมชายยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยต่อกรมบังคับคดี เพื่อหาทางชำระหนี้โดยไม่ต้องสูญเสียบ้าน เมื่อถึงวันนัดไกล่เกลี่ย เจ้าหนี้และลูกหนี้ได้เจรจาต่อหน้าผู้ไกล่เกลี่ย จนตกลงกันได้ว่าลูกหนี้จะชำระหนี้เป็นรายเดือน เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 20 เดือน โดยเจ้าหนี้ยินยอมงดดอกเบี้ยที่ค้างบางส่วน เมื่อบรรลุข้อตกลงดังกล่าว เจ้าหนี้จึงยื่นถอนการยึดทรัพย์ ทำให้ การขายทอดตลาดทรัพย์งดไป ลูกหนี้สามารถรักษาบ้านของตนไว้ได้ และทั้งสองฝ่ายทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นลายลักษณ์อักษรต่อหน้ากรมบังคับคดี​
หากนายสมชายปฏิบัติตามสัญญาจนครบ หนี้สินจะถือว่าปิดลงโดยสมบูรณ์

img

ตัวอย่างที่ 2: ไกล่เกลี่ยหนี้บัตรเครดิตในชั้นบังคับคดี
  นางสาวก้อยมีหนี้บัตรเครดิตจำนวน 80,000 บาท ซึ่งศาลพิพากษาให้นางสาวก้อยชำระหนี้ดังกล่าวแก่บริษัทบัตรเครดิต นางสาวก้อยไม่ได้ชำระหนี้ทันทีและคดีเข้าสู่ชั้นบังคับคดี บริษัทบัตรเครดิตได้ยึดเงินเดือนบางส่วนของเธอ (อายัดเงินเดือน) นางสาวก้อยจึงตัดสินใจ ยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยต่อสำนักงานบังคับคดี ในจังหวัดของตน เพื่อขอเจรจาผ่อนชำระหนี้เป็นงวดที่ตนจะสามารถจ่ายไหว กรมบังคับคดีรับคำร้องและ แจ้งวันนัดไกล่เกลี่ยทางอีเมล ให้ทั้งคู่ความทราบล่วงหน้า​เมื่อถึงวันนัด เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยได้จัดให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกัน ผลการเจรจา บริษัทบัตรเครดิตยอมให้ลูกหนี้ผ่อนชำระเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 16 เดือน (รวมเป็นเงิน 80,000 บาทเต็มจำนวน แต่ยืดระยะเวลาให้) โดยตกลงว่าจะ ระงับการอายัดเงินเดือน ของเธอชั่วคราว หากเธอผิดนัดชำระตามแผนที่ตกลง บริษัทจะกลับมาอายัดเงินเดือนได้ต่อ ข้อตกลงนี้ถูกทำเป็นลายลักษณ์อักษรลงนามทั้งสองฝ่ายต่อหน้าเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ย สรุปคือ หนี้จะได้รับการชำระจนครบตามแผน โดยไม่ต้องบังคับคดีขั้นเด็ดขาดเพิ่มเติม ทุกฝ่ายพึงพอใจ: ลูกหนี้ได้ผ่อนหนี้ตามกำลัง และเจ้าหนี้ก็มั่นใจว่าจะได้รับเงินครบ (หนี้ไม่สูญ)
หากนายสมชายปฏิบัติตามสัญญาจนครบ หนี้สินจะถือว่าปิดลงโดยสมบูรณ์

img

ตัวอย่างที่ 3: มหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
  กรมบังคับคดีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโครงการ “มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหาการเงินในช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจำนวนมากเข้าร่วมเจรจากับเจ้าหนี้อย่างพร้อมเพรียง ตัวอย่างหนึ่งคือนายดำรง ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลที่ถูกฟ้องและอยู่ในชั้นบังคับคดี ได้เจรจากับธนาคารเจ้าหนี้ จนได้ข้อยุติเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ลดอัตราดอกเบี้ยและขยายเวลาผ่อนชำระ ทำให้นายดำรงสามารถผ่อนชำระได้ตามกำลัง และธนาคารก็ได้รับเงินคืนมากกว่าที่คาดว่าจะสูญไปหากต้องบังคับคดีต่อ กรณีของนายดำรงเป็นหนึ่งในหลายร้อยคดีที่ประสบความสำเร็จ ช่วยยุติการบังคับคดีได้รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และรักษาสัมพันธ์อันดีระหว่างลูกหนี้-เจ้าหนี้ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี​ จากตัวอย่างข้างต้น



อ้างอิงแหล่งข้อมูล:
กรมบังคับคดี (ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท) led.go.th
ธนาคารแห่งประเทศไทย bot.or.th
พระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562, บทความคลินิกแก้หนี้ (SAM), คู่มือการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี, บทความบริษัทเงินติดล้อ​ tidlor.com

ติดต่อสอบถาม

ทรัพย์ดี

Copyright © 2024 Sup-D